“วัสดุท่อ” และ “Flange Rating” ก็เป็นจุดตัดสินว่าระบบจะอยู่ได้ยาว หรือเจอปัญหาซ้ำซ้อน
.
ปัจจัยหลักในการเลือกวัสดุท่อ (Pipe Material)
การเลือก Pipe Material ไม่ใช่เรื่อง “เลือกเกรดเหล็ก” อย่างเดียว แต่คือการ Balance ระหว่าง ความปลอดภัย + อายุการใช้งาน + ต้นทุน
- อุณหภูมิ (Temperature) → โลหะบางชนิดแข็งแรงที่อุณหภูมิปกติ แต่จะ Soft หรือเปราะแตกเมื่อเจอความร้อนสูง
- ความดัน (Pressure) → วัสดุและความหนาท่อ (Schedule) ต้องรองรับ Operating & Design Pressure ได้
- การกัดกร่อน/กัดเซาะ (Corrosion/Erosion) → สารเคมี/ของเหลวที่มี solid particle ทำให้ผิวท่อสึกเร็ว ถ้าเลือกวัสดุไม่ถูก → อายุใช้งานสั้นกว่าที่คิด
- มาตรฐาน (ASME/ANSI/API) → เพื่อให้มั่นใจว่า Pipe + Fittings + Flange “ทำงานเข้ากันได้” และผ่านมาตรฐานสากล
* Tip: บางครั้งการเลือกใช้ Lining / Coating อาจคุ้มค่ากว่าการใช้ Exotic Material ทั้งเส้น
.
Flange Rating = จุดเล็กที่ไม่เล็ก
การเลือก Flange ไม่ใช่แค่เลือก “Class 150 หรือ 300” แบบเดาสุ่ม แต่ต้อง Match กับ Pressure–Temperature Rating ที่มาตรฐาน ASME B16.5 กำหนดไว้
X เลือก Flange ต่ำเกิน → เมื่อเจอ Pressure/Temperature สูง จะเกิดการรั่วซึมที่ Gasket หรือแตกหักที่ Bolt
X เลือกสูงเกินความจำเป็น → ต้นทุนท่อ + Valve + Fittings ทั้งระบบบานขึ้นโดยไม่จำเป็น
* Tip: ใช้ Pressure–Temperature Table เช็กให้ชัด → Class 150 ใช้ได้ถึงกี่ bar/°C, ถ้าเกินต้องขยับไป Class 300/600
.
– Case จริงจากโรงงาน:
โรงงานเคมีแห่งหนึ่งใช้ Flange Class 150 กับระบบที่ Operating Pressure เกือบ 20 barg ที่ 180°C
ช่วงแรกใช้งานได้ แต่หลังจากรันไประยะหนึ่ง → เกิด leak ซ้ำ ๆ ที่หน้าแปลน จนต้องหยุดเครื่องซ่อมบ่อย
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น:
-เสียเวลา downtime หลายวัน/ปี
- เสียค่า Gasket + Bolt Replacement บ่อย
- เสียโอกาสผลิต (Production Loss) รวมมูลค่าหลายล้านบาท
สุดท้ายต้องเปลี่ยน Flange ทั้งระบบเป็น Class 300 → ถ้าคำนวณถูกตั้งแต่แรก โรงงานจะไม่เสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนขนาดนี้
.
สรุป การเลือก Pipe Material + Flange Rating ไม่ใช่เรื่องเล็ก → มันคือการลงทุนที่ช่วยโรงงาน
✓ ลดปัญหารั่ว–ซ่อมซ้ำ
✓ ยืดอายุระบบ
✓ คุมต้นทุนให้อยู่หมัด
.
นี่คือเหตุผลที่การออกแบบระบบท่อ ต้องมองทั้ง Hydraulic Calculation + Material & Flange Selection ไปพร้อมกัน