หลายโรงงานยังคุ้นกับการ “ดับไฟหน้างาน”
เจอ Pressure Drop → ปรับวาล์ว
เจอ Flow ผันผวน → เพิ่ม Pump Speed
แต่สุดท้าย… ปัญหาก็กลับมาอีก
เพราะที่จริงแล้ว สิ่งที่เราทำคือ “แก้อาการ”
แต่ยังไม่ได้ “เข้าใจต้นเหตุ” ของปัญหา
.
Root Cause Thinking คืออะไร?
แนวคิดที่ใช้มองปัญหาเชิงระบบ ไม่ใช่รายอาการ
– เริ่มจากการตั้งคำถาม “ทำไม?” (Why?) ทีละชั้น (5 Whys)
– เชื่อมโยงข้อมูล Process, Equipment, และ Instrument
– วิเคราะห์ Pattern จาก Data → เพื่อหาว่าปัญหาเกิดจากอะไรแน่
* ตัวอย่างจาก Workshop จริงในคอร์สนี้:
-เคส Pump Cavitation ที่ Operator เคยแก้ด้วยการ “เปลี่ยนปั๊มใหม่”
แต่ใน Workshop วิทยากรพาไล่ Root Cause จนพบว่า
ปัญหาจริงอยู่ที่ suction line restriction + improper NPSH design
ผลลัพธ์: ลด Downtime ลงกว่า 50% โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
.
ทำไม Root Cause Thinking ถึงสำคัญใน Refinery Operation?
เพราะทุกปัญหาที่ “เกิดซ้ำ” = ต้นทุนที่ซ่อนอยู่
ไม่ว่าจะเป็น Energy Loss, Product Off-Spec หรือ Equipment Failure
และในยุคที่ Refinery ต้อง Optimize ทั้ง Cost และ Reliability
“Engineer ที่คิดเชิงระบบ” คือกำลังสำคัญที่สุดขององค์กร